การศึกษารูปแบบการปฏิบัติงานเภสัชกรรมชุมชนที่พึงประสงค์ในกลุ่มผู้บริโภค : กรณีศึกษา ณ ศูนย์ยา มฉก.
The Study of the Consumer’s Needs in the Community Pharmacy Practice : Case Study of HCU Drug Center
บทคัดย่อ:
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดรูปแบบการปฏิบัติงานบริการเภสัชกรรมชุมชนให้สอดคล้องกับความประสงค์ของผู้บริโภค โดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคของศูนย์ยา มฉก. จำนวน 403 ราย จำแนกเป็นประชาชนทั่วไป 158 ราย (ร้อยละ 39.2) บุคลากรมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 94 ราย (ร้อยละ 23.3) และนักศึกษาของมหาวิทยาลัย 151 ราย (ร้อยละ 37.5) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติที่ไม่ใช้ พาราเมตริก ครูสคาลวอลลิสและไค-สแควร์
ผลการวิเคราะห์ 1) พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อยา พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 75.9 เลือกซื้อยาจากร้านยาที่มีเภสัชกรประจำเท่านั้น กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 41.7 เลือกช่วงเวลาสะดวกซื้อระหว่างเวลา16.00 น.-18.00 น. การมีระบบประกันสุขภาพไม่มีผลต่อความถี่ของการซื้อยาที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 จำนวนเงินซื้อยาในรอบปีที่ผ่านมาขึ้นกับรายได้ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 2) ระดับคะแนนเฉลี่ยความต้องการของประเภทกิจกรรมบริการที่พึงประสงค์ จำนวน 18 ประเภท พบว่าจำนวน 12 ประเภทที่มีคะแนนเฉลี่ย 4.02–4.53 จากคะแนนเต็ม 5 โดยความต้องการบริการปรึกษาเรื่องยามีระดับความต้องการค่าเฉลี่ยสูงสุด (4.53) การจำหน่ายยามีคะแนนเฉลี่ย 4.39 ความต้องการให้จัดทำทะเบียนประวัติและ ความต้องการบริการส่งต่อผู้ป่วยมีคะแนนเฉลี่ย 4.13 และ 4.12 ตามลำดับ ส่วนความต้องการอีกจำนวน 6 ประเภทมีระดับค่าเฉลี่ยระหว่าง 3.22–3.92 โดยมีการบริการตรวจการตั้งครรภ์มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด การศึกษาและอาชีพที่แตกต่างกันมีผลต่อระดับความต้องการบางประเภท 3) ระดับความต้องการการบริบาลทางเภสัชกรรม 14 ประเภทขณะซื้อยา พบว่าลำดับ ค่าเฉลี่ยของระดับความต้องการทุกประเภทที่กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดต้องการอยู่ในระดับ 4.12-4.58 ซึ่งการแนะนำวิธีใช้ยามีระดับความต้องการสูงสุด (ค่าเฉลี่ย 4.58) และการเก็บประวัติการใช้ยามีระดับความต้องการอันดับสุดท้าย (ค่าเฉลี่ย 4.12) และการศึกษาต่างกันมีผลต่อระดับความต้องการบางประเภท 4) ลำดับความสำคัญของคุณสมบัติ 10 ประการของบุคลากรจ่ายยาในสถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชนเป็นดังนี้ อันดับที่หนึ่งคือความรู้เรื่องยา (ค่าเฉลี่ย 4.68) อันดับที่สองคือความสามารถการสื่อสาร (ค่าเฉลี่ย 4.64) อันดับสามคือจริยธรรม (ค่าเฉลี่ย 4.63) กลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่าคุณสมบัติเกือบทุกประการมีความสำคัญมากกว่าระดับ 4 มีเพียงอันดับสุดท้ายคือความรู้ในการปรุงยาที่ค่าเฉลี่ยของระดับความสำคัญคือ 3.86 ผู้บริโภคของศูนย์ยาอย่างน้อยสองกลุ่มให้ความสำคัญของบุคลิกภาพของบุคลากรแตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
การวิจัยนี้สามารถใช้เป็นแนวทางการกำหนดรูปแบบการปฏิบัติงานบริการเภสัชกรรมชุมชน มาตรฐานของกระบวนการให้บริบาลทางเภสัชกรรมของผู้ปฏิบัติการ การเลือกสรรบุคลากรและระบบบริหารที่เหมาะสม ในการปฏิบัติงานเพื่อตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคตลอดจนสามารถใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงเนื้อหารายวิชาการบริบาลเภสัชกรรมระดับปฐมภูมิเพื่อการผลิตบัณฑิตให้มีคุณสมบัติสอดคล้องกับการปฏิบัติงานและความต้องการของผู้บริโภค
The purpose of this research is to find the suitable pattern of community pharmacy practice to satisfy the consumer’s need. The study was performed by interviewing 403 customers of HCU Drug Center, including 158 general people (39.2%), 94 HCU staff (23.3%), and 151 HCU students (37.5%). The data were analyzed by using descriptive statistics, mean percentage, and Non-parametric Statistics, Kruskal-Wallis and Chi’s square.
Results of analysis: 1) Drug purchasing behaviors. 75.9% of sample group prefer to purchase drugs from licensed pharmacists, 41.7% prefer to purchase drug during 4-6 p.m., the frequency of drug purchasing is not affected by health insurance systems at 0.05 significant level, and the volume of purchase depends on the income at 0.05 significant level. 2) Average scores of customer requirements of community pharmacy services selecting from 18 activities, there are 12 activities that have average score at 4.02-4.53 out of 5 full score. The requirement of drug counseling service has the heighest score (4.53). The average scores of the requirements of drug selling, medication history profile, and referring service system to secondary health services are 4.39, 4.13 and 4.12 consecutively. The remaining 6 activities have average score between 3.22-3.92. Pregnancy test service has the lowest score (3.22). 3) Average scores of 14 requirements of pharmaceutical care at the point of purchase. The average scores of all activities are between 4.12-4.58. Drug counseling requirement has the heighest score, 4.58. The lowest average score (4.12) is medication profile requirement. There are 2 different educational background groups having significantly different level of some requirements. 4) Priority of 10 qualifications of drug dispensing personnel. The first priority qualification is drug knowledge (average score 4.68), the second is communication ability (average score,4.64), and the third is moral (average score 4.63). The average scores of other 9 qualifications are above 4, except drug compounding knowledge (average score 3.86). The qualification of dispensing personnel was considered different priority at least by 2 different groups of HCU drug center customers at 0.05 significant level.
The results of this study could be applied to improve the operation of the community pharmacy services, set up the standard of pharmaceutical care, select qualified personnel, and improve operation management. This research can provide the information to the Faculty of Pharmaceutical Sciences to properly train pharmacy students in response to customer demand for community pharmacy services.
นิตยาวรรณ กุลณาวรรณ. (2546). การศึกษารูปแบบการปฏิบัติงานเภสัชกรรมชุมชนที่พึงประสงค์ในกลุ่มผู้บริโภค : กรณีศึกษา ณ ศูนย์ยา มฉก. วารสาร มฉก.วิชาการ 7 (13), 3-16.