สะสมไว้ใช้เล่าเรื่อง
หนังสือประกอบนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา
ขออัญเชิญพระราชนิพนธ์คำนำ “…ของที่รวบรมมาประมาณ จะเรียกว่า 50 ปีก็ได้ มีทั้งของมีราคา … ทำให้คิดว่าผู้ที่มาพบเห็น อยากจะมีโอกาสได้ศึกษาว่าในสมัยก่อนๆ มีของประเภทใดบ้าง ของบางอย่างนี่พอ 50 ปีแล้วก็ไม่มีขายในท้องตลาด หรือเป็นของที่ถือว่าเก่าแก่เป็นของโบราณขึ้้นมาแล้ว … ในการไปเยี่ยมราษฎรในที่ต่างๆ บางทีก็มีคนที่มีของต่างๆ ที่ประดิษฐ์เองหรือของที่รวบรวมไว้เขาก็อยากจะให้ ก็เอามารวมเอาไว้ หรือมีคนที่มาหา บางทีก็ให้เป็นของ หรือไปต่างประเทศก็มีคนที่มาได้ของที่แปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นในประเทศไทย ก็เอามารวมไว้ พอไปดูเราอาจจะศึกษาได้ว่าธรรมเนียมประเพณีของที่ต่างๆ เขาทำอย่างไร ประเพณีบ้านเราก็ไม่เหมือนกัน หรือวัฒนธรรมของไทยของต่างประเทศ มันก็ไม่เหมือนกัน …”
ของสะสม
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชอัธยาศัยใฝ่ศึกษาและสนพระราชหฤทัยศิลปวิทยาการทุกสาขา พระราชอัธยาศัยนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงปลูกฝังมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อเสด็จฯ ไปสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก จึงทรงสะสมสิ่งของอันเป็นตัวแทนวัฒนธรรมและวิทยาการของชนชาติต่างๆ
การทรงสะสมสิ่งของเหล่านี้มีประโยชน์เพื่อการศึกษาและเป็นเครื่องเตือนความจำ ของสะสมส่วนพระองค์ตั้งแต่ยังทรงทระเยาว์จนถึงปัจจุบันมีหลายประเภท มีทั้งของที่มีค่าและไม่มีบูลค่า แต่ทรงเก็บไว้เพราะมีความหมายทางสังคมและวัฒนธรรมแสดงถึงประวัติศาสตร์ของถิ่นต่างๆ
อีกประการหนึ่ง ทรงพระราชดำริว่าสิ่งของเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากขึ้นถ้าจัดเก็บและจัดแสดงตามหลักพิพิธภัณฑ์สากล จึงโปรดเกล้าฯ ให้คณะทำงานเก็บรวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์บ้านสวนปทุม จ. ปทุมธานี ทรงสนับสนุนให้คณะทำงานค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และติดตามดูกิจการพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่ได้ชมได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ มีความเข้าใจใฝ่รู้ในศิลปวิทยาการ เกิดความคิดสร้างสรรค์และซาบซึ้งในวัฒนธรรมแบบต่างๆ อันก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่งชนชาติ (คำนำ)
รายการอ้างอิง
พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ. ของสะสมไว้ใช้เล่าเรื่อง. กรุงเทพฯ : พิพิธภัณฑ์ฯ, 2558.
หนังสือ ปรารภ กวีนิพนธ์ เรื่อง พระรามชาดก จัดทำโดย กองทุนพระมหาชนก มหาวิทยาลัยขอนแก่น แปลจาก หนังสือ พระลัก พระลาม หรือ พระลามชาดก (ซึ่ง ดร. สัจจิดานันดะ สะหาย เรียบเรียงไว้เป็นภาษาลาว และจัดพิมพ์เมื่อ ค.ศ. 1973 โดยสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) เพื่อจัดพิมพ์เป็นที่ระลึก งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
ปรารภ กวีนิพนธ์ เรื่อง พระรามชาดก
วิจิตรแพรวา : มรดกภูมิปัญญาสู่ราชินีแห่งไหม (Artistic Prae-wa : Wisdom Inheritance into Queen of Silk)
วิจิตรแพรวา : มรดกภูมิปัญญาสู่ราชินีแห่งไหม (Artistic Prae-wa : Wisdom Inheritance into Queen of Silk) จัดทำโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 เนื่องด้วยผ้าทอมือโบราณของอีสาน มีความหลากหลายตามกรรมวิธีการถักทอและลักษณะใช้สอย จึงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับคนรุ่นปัจจุบันในการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจให้แจ่มชัดถึงสรรพตำรา-สรรพวิชาอันเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ในการถักทอผ้าไทยที่ครอบคลุมไว้อย่างทั่วถึงและสมบูรณ์แบบที่สุด จึงเป็นปฐมบทที่จัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย
ความรักใดจะไม่ปวดร้าว
พระราชนิพนธ์แปล ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนวนิยายของ ชวนหนี ซึ่งสะท้อนให้เห็นปัญหาสังคมสมัยใหม่ อันส่งผลต่อนิยามของความรักในมิติต่างๆ โดยเฉพาะจากมุมมองของผู้หญิง ผู้เป็นทั้งแม่และภรรยา
ตัวเอกของเรื่องเป็นหญิงสาวสมัยใหม่ผู้มีศรัทธาต่อความรักและตัดสินใจแต่งงานด้วยความรักแม้จะไม่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ เธอเสียสละเพื่อสามี ยอมส่งเสียสามีจนเรียนจบปริญญาโท และเธอตัดสินใจทำแท้ง เมื่อคิดว่าตนเองไม่พร้อมเป็นแม่ แต่สุดท้ายเธอยอมมีลูก เพราะเห็นแก่สามี ผู้แสดงท่าทีรักเด็กหนักหนา
การมีลูกทำให้เธอไม่าสามารถทำงานได้ ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกและเป็นทุกข์ เพราะรู้สึกว่าตัวตนของเธอสลายไป แม้แต่ชื่อของเธอ ก็ไม่มีใครใช้เรียกอีกต่อไป ค่านิยมสมัยใหม่ที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงพึ่งพาตนเอง เป็นอิสระ เท่าเทียมกับชาย กลับทำให้เธอเป็นทุกข์แสนสาหัส จนคิดหนีลูกและสามี แต่ในที่สุดเธอก็ต้องกลับมาบ้าน เพราะเพื่อนรักผู้ที่เธอหวังว่าจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอกำลังป่วยหนัก ต้องให้แม่ผู้ชราดูแล และไม่อาจช่วยเธอได้
นวนิยายรักเรื่องนี้ เริ่มด้วยการตั้งคำถามกับค่านิยมเก่าที่บูชาเทิดทูนความรัก ทั้งความรักของพ่อแม่ ความรักของหนุ่มสาว ความรักของเพื่อน และจบลงอย่างชาญฉลาด ด้วยความตระหนักรู้ของตัวละครเอกว่า ไม่มีความรักใดจะไม่ปวดร้าว แต่ผู้จะเปลี่ยนความปวดร้าวนี้เป็นปิติสุขได้นั้นก็คือ ผู้มีความรักนั้นเอง (พระราชนิพนธ์คำนำ)
ชีวิตดีดีมีได้ทุกวัน
สุขภาพดีเริ่มต้นได้ด้วยทางเลือกง่าย ๆ โดยการออกกำลังกาย เช่น การวิ่ง โยคะ และการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน เป็นต้น เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ (60 พรรษา) ในปี พ.ศ. 2558 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ขอจัดพิมพ์ซ้ำบทพระราชนิพนธ์ “กีฬาเป็นยาวิเศษ” บทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่ง สสส. ให้ความสำคัญของการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ให้คนไทยมีสุขภาพดี ห่างไกลโรคภัย โดยเชิญบทพระราชนิพนธ์ “กีฬาเป็นยาวิเศษ” มานำเสนอเนื้อหาการออกกำลังกายที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านให้เข้าถึงกิจกรรมการออกกำลังกาย ไว้ในหนังสือ “ชีวิตดีดี มีได้ทุกวัน” เพื่อส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจของประชาชนให้แข็งแรงมีสุขภาพที่ดี หมวดหมู่QT255 ก397ช 2558
กัลย์จีรา ชาตินันทฤกษ์. (2558). ชีวิตดีดี มีได้ทุกวัน. กรุงเทพฯ : ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).
Read the rest of this entry »
นิทรรศการพระสาทิสลักษณ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พุทธศักราช 2558
กระทรวงวัฒนธรรม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมเฉลิมฉลองจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยแห่งพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ด้วยการจัดกิจกรรมเขียนพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 77 ภาพ โดยเชิญศิลปินทั่วประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดีผ่านภาพเขียน และได้จัดพิมพ์หนังสือนิทรรศการพระสาทิสลักษณ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พุทธศักราช 2558 เล่มนี้ ขึ้นด้วย เพื่อจะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างเต็มที่ และเกิดความสุนทรีย์ทางศิลปะโดยทั่วกัน
รายการอ้างอิง สายไหม จบกลศึก สมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ และ เบญจมาส แพทอง, บรรณาธิการ. (2558). นิทรรศการพระสาทิสลักษณ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พุทธศักราช 2558. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : กระทรวงวัฒนธรรม.
ตำนานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สยาม
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 2 เมษายน 2534 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) จึงได้จัดพิมพ์หนังสือเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 โดยคัดเลือกหนังสือด้านศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและหายากมาจัดพิมพ์
ในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ ได้เลือก “ตำนานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สยาม” พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งเป็นฉบับที่พระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี โปรดให้พิมพ์ในงานเฉลิมพระชันษา พ.ศ. 2468 มาจัดพิมพ์ เพราะเป็นหนังสือที่มีคุณค่าและให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ที่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือว่าเป็นประเทศแรกในโลกตะวันออกที่มีการสถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (คำนำ)
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา. (2558). ตำนานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สยาม. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์การมหาชน).
ตำราฟ้อนรำ ฉบับเรียบเรียงในหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร
หนังสือเล่มแรกที่คัดเลือกมาจัดพิมพ์ คือ หนังสือ “ตำราฟ้อนรำ” ฉบับเรียบเรียงในหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร ซึ่งเป็นฉบับที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ในปี พ.ศ. 2466 ว่าด้วยอธิบายตำนานการฟ้อนรำ ว่าด้วยตำรารำของไทยและว่าด้วยท่าโขน ซึ่งเป็นตำรานาฏยศาสตร์อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของไทย ในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ได้รับต้นฉบับจาก ม.ร.ว. ศุภวัฒย์ เกษมศรี (คำนำ)
ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์การมหาชน). (2558). ตำราฟ้อนรำ. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์การมหาชน).
รอยยิ้มและน้ำตาของหัวใจ
วรรณกรรมจีนร่วมสมัย 4 เรื่องที่น่าสนใจ เช่น “โคนส้มดวงน้อย” “หมิงจื่อกับเหมียวน้อยมีจื่อ” “สาวน้อยเสี่ยวหยูว” “ตำนานกับข้าวคู่” โดยผู้เขียนวรรณกรรมทั้ง 3 คนล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด ซึ่งผู้เขียนได้สะท้อนว่าความรักเป็นทั้งรอยยิ้มและน้ำตาของหัวใจมนุษย์ที่ยากจะอธิบายได้อย่างกระจ่างชัดเหมาะสำหรับผู้อ่านที่สนใจในวรรณกรรมจีน หมวดหมู่ รส ซ711ร 2558
ปิงซิน, เหยียนเกอหลิง, ซูเฉี้ยว. (2558) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แปล. รอยยิ้มและน้ำตาของหัวใจ. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์.
การแปรรูปวรรณกรรม เป็นหนังสือชุด ที่ระลึก เนื่องใน งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 และ วาระครบ 20 ปี ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับพระราชทาน พระเกี้ยวทองคำ ในฐานะสถาบันส่งเสริมภาษาไทยดีเด่น พุทธศักราช 2537 โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 3 เล่ม คือ