SIDEBAR
»
S
I
D
E
B
A
R
«
ตงจื้อ (冬至 )หรือ เทศกาลฤดูหนาว
พฤศจิกายน 23rd, 2017 by wanna

ตงจื้อ หรือ เทศกาลฤดูหนาว ซึ่งอยู่ในช่วงระยะเวลากลางฤดูหนาว ประมาณเดือน 11 และใกล้เคียงกับเทศกาลล่าปา ในสมัยชุนชิว ประเทศจีนก็มีการใช้เครื่องมือพื้นบ้านทำการวัดเวลาของ 24 เทศกาลใน 1 ปี  และพิสูจน์ได้ว่า วันตงจื้อเป็นเทศกาลแรกเทศกาลหนึ่ง ซึ่ง มีเวลากลางวันสั้นที่สุด และเวลาคืนยาวที่สุดในรอบปี  เมื่อผ่านพ้นตงจื้อไปแล้วกลางวันจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ  ฉะนั้นในสมัยโบราณจึงมีการสันนิษฐานว่า  วันตงจื้อนั้นเป็นวันขึ้นปีใหม่  ชาวบ้านจึงมีการฉลองอย่างครึกครื้นเป็นการใหญ่  ช่วงหลังชาวบ้านรับรู้ถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเช่นลูกเห็บตกในฤดูใบไม้ผลิ  ฟ้าคะนองในฤดูหนาว  การเกิดสุริยคราสหรือจันทรคราสอุทกภัยหรือภัยแล้ง  ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฟ้าดินวิปริตแปรปรวน ซึ่งเป็นการลงโทษต่อมนุษย์โลกทั้งนั้น

ในสมัยราชวงศ์หมิง และ ราชวงศ์ชิงนั้น กษัตริย์ได้ฉลองพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่  เพื่อบวงสรวงพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ประทานพืชพันธุ์ธัญญาหารอันอุดมสมบูรณ์ในปีนั้น  และขอพรความสุขความเจริญเพื่อดับทุกข์แทนประชาชน  เพราะกษัตริย์ก็คือบุตรสวรรค์  ต่อมาประชาชนก็บวงสรวงเซ่นไหว้เทพเจ้าฟ้าดิน และบรรพบุรุษตามกษัตริย์

ส่วนเกี่ยวกับอาหารการกินในเทศกาลนี้ก็คือ “ขนมอี๋”  ซึ่งเรียกว่า “สารทขนมอี๋”  หรือ เทศกาลฤดูหนาว  แต่ละถิ่นก็มีการกินที่แตกต่างกัน เช่น ทางอีสานชอบกินเต้าหู้ร้อน เนื้อสุนัข เกี๊ยว  ทั้ง 3 อย่างนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายและให้ความอบอุ่นด้วย  ส่วนเกี๊ยวนั้นเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หุนทุน”  เล่ากันว่า  ในสมัยราชวงศ์ฮั่น  ทางด้านทิศเหนือมีชนกลุ่มน้อยที่มีความเหี้ยมโหดเรียกว่า  “ซงหนู”  เข้ามารังควานทางด้านชายแดนบ่อย ๆ  ทำให้ประชาชนอยู่ด้วยความไม่เป็นสุข  ในตอนนั้นพวกซงหนูมีอยู่ 2 พวก  หัวหน้าคนหนี่งชื่อ  “หุน”  อีกคนหนึ่งชื่อ  “ทุน” ชาวบ้านเกลียดชังเข้ากระดูกดำ  จึงได้ห่อเกี๊ยวเป็นเหลี่ยมและเรียกว่า  “หุนทุน”  กินเป็นอาหาร  ไม่ให้มาทำความวุ่นวายหรือรังควานอีก  จากนั้นมาความเป็นอยู่เป็นไปอย่างสงบสุข  ส่วนแถบทางใต้และพวกที่อยู่ต่างแดนพอถึงเทศกาลฤดูหนาว ก็จะทำขนมอี๋เซ่นไหว้ฟ้าดินเทพเจ้า  และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว  เพื่อแสดงถึงความกลมเกลียวโชคดีมีสุขตามขนมที่เซ่นไหว้

สำหรับขนมอี๋ หรือขนมบัวลอยที่ใช้ในการเซ่นไหว้จะทำจากแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำต้มสุกจนเข้าที่และปั้นเป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ นิยมผสมสีชมพูและสีขาว เมื่อปั้นเสร็จแล้วจึงนำไปต้มในน้ำเดือดคล้ายกับการทำบัวลอยน้ำกะทิของคนไทย แต่ขนมอี๋จะใช้น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดงแทนกะทิ ที่สำคัญจะต้องมีขนมอี๋ลูกใหญ่ที่เรียกว่า อีโบ้ ใส่ลงไปในถ้วยขนมอี๋ที่จะไหว้ถ้วยละหนึ่งลูกด้วย

ลักษณะกลมของขนมอี๋ สื่อความหมายถึงความกลมเกลียวของคนในครอบครัว สีแดงและสีชมพู  สื่อความหมายถึงความโชคดี  นอกจากนี้ขนมอี๋ยังถือเป็นขนมมงคลของชาวไทยเชื้อสายจีนที่นิยมทำขื้นในงานแต่งงานอีกด้วย

ขนมอี๋

ขนมอี๋

รายการอ้างอิง

中國民俗傳統節日 : 佳節年年. 蘇佩吟選編. 曼谷 : 八音出版社, 2001.

วันไหว้ขนมบัวลอย2559และประวัติวันไหว้ขนมบัวลอย สืบค้นจาก https://hightlight.kapook.com/view/106513


Comments are closed

»  Substance:WordPress   »  Style:Ahren Ahimsa