SIDEBAR
»
S
I
D
E
B
A
R
«
การแปลงข้อมูลเป็นภาพ Infographic
มิถุนายน 21st, 2017 by Suvanrat Kraibutda

ในวันที่ 13 มิถุนายน 2560 ได้มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง Infographic ๑๐๑ แปลงข้อมูลเป็นภาพ ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. จึงขอนำความรู้ที่ได้ และเทคนิคเกี่ยวกับการออกแบบ Infograpic มาเผยแพร่ต่อ เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจจะศึกษาในเรื่อง Infographic ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

Infographic หรือการแปลงข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบของรูปภาพ เป็นการจัดการข้อมูลเป็นการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการใช้รูปทรง และสีสัน เข้ามาอยู่ในข้อมูลรูปภาพ ทำให้ข้อมูลนั้นมีความน่าสนใจ และทำให้ผู้อ่านเข้าใจข้อมูลที่เราอยากจะสื่อ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ ข้อมูลที่เราสามารถค้นหาได้นั้นมีไม่น้อย แต่ข้อมูลนั้นมีมากจนเกินไป จนทำให้เกิดความซับซ้อนของข้อมูล ข้อมูลไม่มีเนื้อหาสาระสำคัญ หรือบทสรุป เพราะไม่มีการจัดระเบียบเนื้อหาอย่างชัดเจน จึงทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจ และให้ความสนใจกับข้อมูลน้อยลง

ดังนั้นการแปลงข้อมูลเป็นภาพ หรือเรียกว่า Infographic จึงมีความน่าสนใจ และควรนำมาปรับใช้กับข้อมูลในปัจจุบัน เพื่อการสื่อสารที่ดีขึ้น ผู้ใช้จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และตรงประเด็นมากที่สุด ขั้นตอนการทำ Infographic มี 4 ขั้นตอนดังนี้

1.2

1. COLLECT DATA เก็บข้อมูล คือ การลงพื้นที่ชุมชน หรือกลุ่มประชากรที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่จะทำ และสอบถามเกี่ยวกับเนื้อหา โดยใช้คำถามแบบเปิด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แปลกใหม่ และเป็นข้อมูลที่ประชากรสนใจจริงๆ เมื่อเราได้ข้อมูลที่ประชากรให้ความสนใจ จะทำให้ข้อมูลใน Infographic เข้าถึงกลุ่มประชากรที่เราต้องการ

2. NARRATIVE สร้างเรื่อง คือ เลือกข้อมูลที่สนใจจากการเก็บข้อมูลในขั้นตอนที่ 1 จากนั้นศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เลือกเฉพาะข้อมูลสำคัญมาใช้ใน Infographic เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจกับข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

3. VISUAL PRESENTATION นำเสนอด้วยภาพ คือ การนำภาพมาปรับใช้ร่วมกับข้อมูล เช่น Infographic เรื่อง มลพิษทางอากาศ ควรมีภาพ รถยนต์ ท่อไอเสีย ถนน เป็นต้น หรืออาจจะใช้รูปทรงเลขาคณิตในการตกแต่งเพิ่มเติม ตามความเหมาะสมของเนื้อหา

4. MAKE IT CHAMING ปรับให้น่ามอง คือ เทคนิคการทำให้ Infographic ดูสวยงามและน่าสนใจคือการใช้สี สีที่ใช้จะเป็นสีใดก็ได้ แต่ไม่ควรเกิน 5 สี เพราะอาจทำให้ดูลายตาจนเกินไป และไม่มีจุดสนใจ ควรทำให้ Infographic อยู่ในลักษณะของธีม หรือไปในทิศทางเดียวกัน

โครงสร้าง


โครงสร้างของ Infographic คือ การแปลงข้อมูลเป็นภาพให้อยู่ภายในกระดาษ 1 แผ่น ขนาดใดก็ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งข้อมูลที่เราทำจะแตกต่างกันออกไป มีข้อมูลในลักษณะต่างๆ ที่ต้องใช้กับโครงสร้างที่เหมาะสมที่สุด โครงสร้างจะช่วยให้การทำ Infographic ของเราได้ง่ายขึ้น เพราะมีการแบ่งข้อมูลอย่างชัดเจน โครงสร้างมีทั้งหมด 6 แบบ ดังนี้

1. LIST หัวข้อ/รายการ คือ การทำข้อมูลที่ไม่เฉพาะเจาะจง มีความหลากหลายของข้อมูล แต่จะต้องเป็นข้อมูลที่มีความสอดคล้องกับหัวข้อใหญ่ และอยู่ในทิศทางเดียวกันกับข้อมูลอื่นๆ ข้อมูลที่มีเนื้อหาเยอะ หากใช้โครงสร้าง LIST /หัวข้อรายการ จะทำให้จัดการข้อมูลได้ง่าย และเป็นระเบียบ

1

ตัวอย่าง LIST หัวข้อ/รายการ

2. COMPARE เปรียบเทียบ คือ การนำข้อมูลที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน มาเปรียบเทียบกันให้เห็นอย่างชัดเจน บอกถึงความแตกต่างของข้อมูล การทำโครงสร้างเปรียบเทียบนี้ ไม่ควรใช้สีเกิน 2 สี เพราะจะทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนได้ง่าย เนื่องจากข้อมูลเป็นการเปรียบเทียบอยู่แล้ว และหากอยากใส่ข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่การเปรียบเทียบ ให้เพิ่มข้อมูลที่ด้านบนซ้าย หรือล่างซ้าย จะทำให้อยู่ในระดับสายตาของผู้อ่าน

2

ตัวอย่าง COMPARE เปรียบเทียบ

3. MAP แผนที่ คือ การทำข้อมูลที่ใช้ภาพเป็นหลัก และต้องการบอกสถานที่อย่างชัดเจน โดยใช้ลายเส้นเป็นตัวเชื่อมไปยังสถานที่ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ร่างกาย ก็จะมีภาพส่วนต่างๆ ของร่างกาย แบ่งเป็นเส้นปะ และบอกถึงส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยบอกส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นข้อมูลตามจริง

3

ตัวอย่าง MAP แผนที่

4. TIMELINE เส้นเวลา คือ ข้อมูลเกี่ยวกับเวลา และประวัติศาสตร์ ใช้การลากเส้นเพื่อบอกระยะเวลา โดยลากเส้นจากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดจบ ในระหว่างเส้นสามารถวาดรูปและใส่รายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามระยะเวลาก่อน-หลัง ที่อยากนำเสนอ หรือใช้รูปภาพตามยุคสมัยที่ต่างๆ ก็จำทำให้ Infographic ดูน่าสนใจมากขึ้น

4

ตัวอย่าง TIMELINE เส้นเวลา

5. CHART แผนภูมิจำนวน คือ การทำข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนตัวเลข หรือเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับสถิติ โครงสร้างแผนภูมิจำนวนสามารถนำมาใช้กับรวมกับโครงสร้างอื่นๆ ได้ เพราะโครงสร้างแผนภูมิจำนวนจะเป็นประโยชน์ต่อการบอกค่าสถิติต่างๆ และแผนภูมิจำนวนมีความแตกต่างจากโครงสร้างอื่น จึงไม่ทำให้เกิดความซับซ้อนของข้อมูลมากจนเกินไป หากนำมารวมกัน

5

ตัวอย่าง CHART แผนภูมิจำนวน

6. FLOW CHART แผนภาพลำดับขั้นตอน คือ การทำข้อมูลที่มีลักษณะเป็นขั้นตอน วิธีการ เช่น เรื่องวิธีการทำอาหาร การจัดอันดับความนิยม เป็นต้น จะเห็นได้ว่า โครงสร้างนี้ได้รับความนิยมมากในการทำ Infographic เพราะสามารถนำข้อมูลมาปรับใช้กับโครงสร้างนี้ได้ง่าย และเป็นระเบียบ

6

ตัวอย่าง FLOW CHART แผนภาพลำดับขั้นตอน

จะเห็นได้ว่า การทำ Infographic มี 2 ขั้นตอนหลัก คือ การรวบรวมข้อมูล และออกแบบโครงสร้าง การรวบรวมข้อมูลจะต้องแน่ใจว่าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และมีเนื้อหาที่สอดคล้องกัน เพราะ Infographic คือสื่อที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเรื่องที่เรานำเสนอได้ง่าย เนื้อหาตรงประเด็นแต่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ดังนั้นโครงสร้างจึงมีส่วนช่วยให้การทำ Infographic ง่ายขึ้น มีการวางเนื้อหาอย่างเป็นระเบียบ และน่าสนใจ ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เราสามารถนำโครงสร้างมารวมกันได้ภายใน Infographic 1 เรื่อง แต่ไม่แนะนำให้นำมารวมกันมากกว่า 2 โครงสร้าง เพราะจะทำให้ infographic ที่อ่านได้เข้าใจง่าย กลายเป็นทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนมากกว่า

*ข้อมูลส่วนหนึ่ง ได้จากฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง Infographic ๑๐๑ แปลงข้อมูลเป็นภาพ ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.


Comments are closed

»  Substance:WordPress   »  Style:Ahren Ahimsa