Introduction to IEEE & IEEE Xplore
IEEE เป็นองค์กรที่มีบทบาทในวงการค้นคว้าและงานวิจัยมายาวนาน โดยดำเนินกิจการใน 4 กิจกรรมหลัก ดังนี้
- Membership organization
- Conferences organizer
- Standards developer
- Publisher of journals, conferences, standards, e-books and e-learning
IEEE เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคต และมีความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในระดับสากล ได้แก่ บริษัทชั้นนำที่อยู่ในอันดับ Top 10 ทางด้าน Semiconductor, Communications Equipment, Aerospace, Computer Hardware, Auto & Truck Manufacturers, Telecommunications ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยนั้น เป็นสถาบันชั้นนำระดับโลก ที่ติดอันดับ Top 100 engineering schools in the US และ Top 50 Engineering and Technology Universities Worldwide นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกหลายอย่างที่ได้รับการสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในหลายประเทศ ทั้งในทวีป อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง
ปัจจุบัน IEEE ได้พัฒนา IEEE Xplore มาเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักวิจัยมากยิ่งขึ้น โดยรวบรวมข้อมูลตลอด 16 ปีที่ผ่านมาเข้าไว้ด้วยกัน และพัฒนาเครื่องมือไว้ให้นักวิจัยได้ใช้ค้นหาข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้สนับสนุนและรองรับกับการทำงานวิจัยในลักษณะต่างๆ เช่น มีจำนวนเอกสารต่างๆ เกือบ 4 ล้านชิ้น สามารถรองรับผู้ใช้บริการ มากกว่า 3 ล้านคน ปัจจุบัน มีจำนวนการดาวน์โหลด มากว่า 8 ล้านครั้ง ต่อเดือน ซึ่งในอนาคตจะสามารถขยายระบบให้รองรับได้มากกว่านี้
IEEE มีการ e-Learning Library ไว้บริการ ที่มีลักษณะ ดังนี้
- มีบทเรียนในลักษณะที่สามารถตอบโต้ได้ (interactive) มากกว่า 400 รายการ
- สามารถเข้าถึงบทเรียนออนไลน์ได้ตลอดเวลา แบบ 24/7 คือ 24 ชั่วโมง ใน 7 วันของสัปดาห์ (เฉพาะ IEEE Xplore)
- ในแต่ละบทเรียนใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง
- มีแบบทดสอบในแต่ละบทเรียน
- สามารถให้ประกาศนียบัตร (certificate) แก่ผู้เรียนที่ประสบความสำเร็จในแต่ละหลักสูตร ตามที่สถาบันกำหนดได้
- มีการปรับปรุงบทเรียนโดยผู้เชี่ยวชาญ และมีคณะกรรมการคอยตรวจสอบการปรับปรุงเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ
Why do they rely on IEEE information
ทำไมบรรดานักวิจัยถึงใฝ่ฝันและต้องการที่จะตีพิมพ์ผลงานตนเองกับ IEEE
เหตุผลหลัก คือ IEEE มีค่า impact factor สูง (IEEE quality makes an impact) ซึ่งจะส่งผลต่อค่าตัวคูณ เมื่อไปใช้คำนวณค่าคะแนน เพื่อใช้ประเมินคุณค่าของงานวิจัยชิ้นนั้นให้แก่สถาบัน
ตัวอย่าง จำนวน IEEE publishes ที่มีค่า impact สูงสุด ในด้านวิศวกรรมต่างๆ เช่น
2 of the top 5 journals in Robotics
3 of the top 5 journals in Artificial Intelligence
3 of the top 5 journals in Automation & Control Systems
7 of the top 10 journals in Cybernetics
8 of the top 10 journals in Computer Science, Hardware & Architecture
ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ IEEE Journals Continue to Excel in Citation Rankings
สำหรับนักวิจัยหรือนักประดิษฐ์คิดค้นหน้าใหม่ที่ต้องการให้ผลงานเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ถ้าสามารถนำบทความของตนมาเผยแพร่ลงใน IEEE จะมีโอกาสที่อาจได้รับการอ้างถึง มากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับที่อื่น ซึ่งในแต่ละปี IEEE จะมีการเพิ่ม e-Books เข้าใน IEEE Xplore ในหัวข้อทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังเป็นที่สนใจ หรือกำลังจะเป็นที่โด่งดังในอนาคต อยู่สม่ำเสมอ จนกระทั่งกลายเป็นผู้นำในงานวิจัยทางด้านเทคโนโลยี ดังรายชื่อ Journals magazines Conference และ Books ที่ปรากฏใน IEEE Publication Types
Writing for a conference or journal
จากภาพข้างล่างนี้ แสดงช่วงเวลาที่ใช้ ตั้งแต่เริ่มเขียนบทความ จนกระทั่งได้ตีพิมพ์ใน IEEE
ในการเขียนบทความเพื่อตีพิมพ์กับ IEEE สามารถทำได้ทั้ง 2 แบบ คือ
บทความที่ลงในวารสารวิชาการ (Journal article)
– เป็นการนำเสนอบทความที่แสดงถึงผลลัพธ์สุดท้าย หรืออยู่ในขั้นตอนการค้นพบครั้งสุดท้าย
– นำเสนอผลงานวิจัยในลักษณะตัวเต็มครบทั้งหมด
– มีข้อสรุปที่ชัดเจน อันเกิดจากการข้อมูลที่ใช้ในงานวิจัย
บทความที่ลงในการประชุมวิชาการ (Conference article)
– สามารถเขียนบทความในขณะที่มีการวิจัยอยู่อย่างต่อเนื่องได้
– นำเสนอผลการศึกษาและวิจัยแบบเบื้องต้นในบทความได้
– ประเมินผลการตอบรับอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อใช้ในประโยชน์ในการวิจัยได้
ดังนั้น บทความที่ลงในการประชุมวิชาการ จึงมักจะมีขนาดบทความที่สั้นกว่า และมีรายละเอียดน้อยกว่า บทความที่ลงในวารสารวิชาการ
The format (structure) of an IEEE paper
สิ่งที่บรรณาธิการของ IEEE มองหา
– บทความที่มีเนื้อหาความเหมาะสม อยู่ในขอบเขตที่สามารถนำไปเผยแพร่ในวารสารได้
– มีเนื้อหาที่เขียนไว้อย่างชัดเจน ถึงลักษณะของปัญหาใหม่ และมีความสำคัญ ควรค่าแก่ความสนใจ
– ใช้วิธีการที่ถูกต้องและเหตุผลในการทำวิจัย
– สรุปผลการวิจัย ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ และนำไปคิดต่อยอดงานได้
– ใช้ภาพประกอบ, ตารางและกราฟ ที่สนับสนุนเนื้อหาในงานวิจัยได้เหมาะสม
โครงสร้างของบทความ
ชื่อเรื่อง (Title)
ชื่อบทความที่ดี เมื่ออ่านแล้วควรแสดงให้เห็นถึง ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำวิจัย แสดงให้เห็นว่ามีการหยิบยกปัญหาใดปัญหาหนึ่งขึ้นมาแก้ไข
บทคัดย่อ (Abstract)
โดยปกติไม่ควรเกิน 250 คำ ใช้คำที่เป็น keywords ในการสื่อสาร และถ้าเป็นภาษาอังกฤษให้ใช้ past tense เขียน
คำสำคัญ (Keyword)
เป็นคำที่มีความสอดคล้องกับ ชื่อเรื่องและบทคัดย่อ ซึ่งสามารถใช้ในการสืบค้นข้อมูลได้ด้วย ควรมีประมาณ 3 – 5 คำ
บทนำ (Introduction)
อธิบายถึงปัญหาที่ถูกเลือกขึ้นมาทำวิจัย โดยชี้แจงถึงประเด็นสำคัญและขั้นตอนหลักที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งไม่ควรเกินกว่า 2 หน้า และถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ให้ใช้ present tense เขียน
วิธีการ (Methodology)
อธิบายถึงแนวคิดหรือกระบวนการที่ใช้ในงานวิจัย ว่าทำอย่างไร เพราะอะไรถึงใช้วิธีการเหล่านั้นมาทำการวิจัย การพิสูจน์หรือการหักล้างสมมุติฐาน การคลี่คลายปัญหา วิธีการนำไปสู่คำตอบ ซึ่งจะต้องสนับสนุนผลลัพธ์ที่ได้ด้วยเช่นกัน
ผลลัพธ์ / อภิปรายผลที่ได้รับ (Results / discussion)
แสดงถึงผลลัพธ์ของคุณที่ได้มาจากการคิดค้นและการทำวิจัยในปัญหาที่เลือกขึ้นมา และสามารถคลี่คลายได้ และสามารถแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่จะนำไปทำประโยชน์ต่อไปได้
ข้อมูลสรุป (Summarized Data)
สรุปข้อมูลในภาพรวมของงานวิจัย เพื่อให้เกิดความกระชับ อาจใช้ตัวเลข ตาราง ภาพ หรือ สัญญาลักษณ์ ในการสรุปเรื่องราว
บทสรุป (Conclusion)
อธิบายถึงความสำเร็จที่ได้จากงานวิจัย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของปัญหาที่หยิบยกมาทำวิจัย ทบทวนประเด็นสำคัญในแต่ละส่วน รวบรวมผลลัพธ์หลักที่ได้ และสรุปสาระสำคัญและผลกระทบที่ได้ (ถ้ามี) กล่าวถึงวิธีการที่นำมาซึ่งผลลัพธ์ และบ่งบอกถึงประโยชน์ในการนำไปใช้งาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำหากจะนำไปต่อยอดงานในอนาคต
รายการอ้างอิง
Aziz, Hazman (2016). Introduction to IEEE & IEEE Xplore. Understanding IEEE journals site on IEEE Xplore. The format (structure) of an IEEE paper. เอกสารประกอบการรอบรมเชิงปฏิบัติการ IEEE Xplore – Essential notes & contributes a journal or conference proceeding article. กรุงเทพฯ : สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
*****************************************************************************