ตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 เกิดขึ้น ก็ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป โดยหลัก ๆ จะเป็นการเว้นระยะห่าง ทั้งระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และระยะห่างทางกายภาพ (Pysical Distancing) รวมถึงการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งของที่อยู่ในสาธารณะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ตามมาตรการหลักที่ทาง ศูนย์ข้อมูลมาตรการการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้กำหนดไว้
เหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงชื่อเข้าใช้ศูนย์บรรณสารสนเทศ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ จากแต่เดิมจะใช้บัตรนักศึกษา Scan Barcode ผ่านเครื่อง Scan หรือหากนักศึกษาไม่ได้นำบัตรมา ก็ต้องใส่รหัสประจำตัวผ่านแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ลงในตาราง Excel เพื่อเป็นการเก็บสถิติผู้เข้าใช้ในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา ก็ปรับเปลี่ยนเป็นการ Scan QR code ด้วยโทรศัพท์มือถือของตนเอง เพื่อเข้าไปกรอกข้อมูลผู้เข้าใช้ใน Google Form แทน ซึ่งวิธีนี้ ลด เลี่ยง การสัมผัสจากสิ่งของสาธารณะได้ 100%
ป้ายประชาสัมพันธ์ ที่มี QR code ให้ Scan เพื่อกรอกข้อมูล ก่อนเข้าห้องสมุด
เมื่อ Scan QR code แล้ว ก็จะเข้าสู่หน้า Google Form ซึ่งมีให้ระบุข้อมูลของผู้เข้าใช้บริการ คือ ประเภทผู้ใช้ ระดับชั้น คณะวิชา และรหัสประจำตัวนักศึกษา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เพียงพอต่อการนำไปวิเคราะห์สถิติการเข้าใช้ห้องสมุด โดยไม่ก่อให้เกิดความลำบากใจของผู้เข้าใช้แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นข้อมูลทั่วไป และไม่ละเมิดสิทธิ์
ข้อดีของการเก็บข้อมูลใน Google Form ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ดูข้อมูลสรุปได้ในทันที ข้อมูลเป็นแบบ Real Time ใช้งานร่วมกับ Google Sheet ได้ และสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเป็น .csv ก็ได้
ตัวอย่างข้อมูลสรุป
การสร้างความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่และผู้เข้าใช้บริการห้องสมุด คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยด้านลดการสัมผัส ความปลอดภัยด้านข้อมูลของผู้ใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อผู้เข้าใช้กรอกข้อมูลได้อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว หากเกิดสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น กรณีมีผู้สุ่มเสี่ยงติดเชื้อเข้ามาใช้บริการห้องสมุด ข้อมูลที่ได้จากการ Check in นี้ ก็เป็นส่วนสำคัญ ที่จะตามตัวและแจ้งเตือน แก่ผู้เข้าใช้ในวันและเวลาเดียวกับผู้ที่สุ่มเสี่ยงนั้นได้
สะดวก ไม่เสี่ยง ลด เลี่ยงการสัมผัส …อย่าลืม Scan QR code Check in ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการศูนย์บรรณสารสนเทศนะคะ